Email :  trin.bo@telecorp.co.th  Tel.  088-673-9000
Admin
PHP , Javascript , CoffeeScript
3 Comments
image1 Credit: ShutterStock.com

กรุงเทพฯ – 29 เมษายน 2559 – กระแส Internet of Things และเรื่องของบิ๊กดาต้า ( Big Data ) นับเป็นประเด็นยอดฮิตติดลมบนในโลกเทคโนโลยีที่หลายคนพูดถึงกันมากเป็นพิเศษในระยะหลังมานี้ อันเนื่องมาจากการผสมผสานของเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจมากมาย อาทิ โอกาสทางธุรกิจที่จะมีอย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่เพื่อการใช้งานใหม่ๆ ดังนั้นการจัดการข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญหลักในการควบคุมและใช้งาน Internet of Things ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จากรายงานของการ์ทเนอร์ ( Gartner ) ระบุว่าภายในปี 2563 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า อุปกรณ์ต่างๆ กว่า 25,000 ล้านเครื่องจะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้ข้อมูลในปริมาณมากมายมหาศาล การมาของ Internet of Things ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและพัฒนาไปสู่ความเป็น Smart City หรือเมืองอัจฉริยะ อันสอดรับกับนโยบาย Digital Economy ของรัฐบาลไทย ซึ่งจะเป็นการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางและส่งผลโดยตรงสังคมไทยและการใช้ชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะเป็น ระบบทะเบียนราษฎร ข้อมูลสาธารณสุขของประชากร ระบบขนส่งเดินทาง และการศึกษา

เน็ตแอพ บริษัทชั้นนำในการจัดการและบริหารข้อมูลระดับโลก เผยว่า Internet of Things คือแนวทางสำคัญที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของตนกับไฮบริดคลาวด์ ( Hybrid Cloud ) หรือ เทคโนโลยีคลาวด์แบบผสมผสาน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ที่สำคัญดังต่อไปนี้

  • Internet of Things จะทำให้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อกันเป็นเน็ตเวิร์คแต่อยู่อย่างกระจัดกระจายมีการประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ
  • Internet of Things ช่วยให้เกิดการทำงานแบบเรียลไทม์และสามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ไหนก็ตาม
  • การใช้ Internet of Things ทำให้เกิดความซับซ้อนในการบริหารข้อมูลในแบบเรียลไทม์ซึ่งเป็นจุดแข็งของเน็ตแอพ

วิสัยทัศน์ของเน็ตแอพ ด้าน “ดาต้า แฟบริค” ( Data Fabric ) ที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่ถูกจัดเก็บและใช้งานอยู่ในประเภทของระบบคลาวด์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น private cloud, hyper scale cloud หรือ cloud service provider ได้อย่างราบรื่นเหมือนกับผืนผ้าที่ทักทอเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแนบสนิท จะช่วยให้ภาคธุรกิจต่างๆ สามารถจัดการข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ในโลกของ Internet of Things ได้อย่างชาญฉลาด ได้แก่

  • Internet of Things ส่งผลโดยตรงต่อข้อมูล ดังนั้นผลกระทบต่อเน็ตแอพคือ Internet of Things ทำให้เกิดการไหลบ่าของข้อมูลในปริมาณหลายเทระไบต์ซึ่งต้องการการจัดเก็บชั่วคราว หรืออย่างถาวร รวมถึงการส่งต่อข้อมูล เรียกข้อมูลคืน ป้องกันข้อมูลสูญหายและวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น
  • จากการเป็นผู้บุกเบิกวิสัยทัศน์ด้านดาต้า แฟบริค เน็ตแอพอยู่ในฐานะที่สามารถช่วยให้ลูกค้าตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วขึ้น เมื่อมีการไหลผ่านของข้อมูลเข้ามาในปริมาณมากจากหลายหลายที่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการจัดการข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่บนคลาวด์แตกต่างที่กัน
  • ในสภาพแวดล้อมของ Internet of Things ข้อมูลจะมีการเก็บไว้ ส่งต่อและแลกเปลี่ยนบน Private Cloud คลาวด์ส่วนตัวหรือคลาวด์ในองค์กร Public Cloud คลาวด์สาธารณะหรือผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศและHybrid Cloud คลาวด์แบบผสมผสาน
  • บริหารจัดการและผสมผสานข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ตามที่ต่างๆ โดยที่ผู้อื่นไม่สามารถนำไปใช้ได้ ทำหน้าที่ป้องกันและจัดการข้อมูล ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่เพิ่มมูลค่าให้กับแพลตฟอร์มของ Internet of Things ด้วยข้อมูลเพียงชุดเดียวที่ใช้ร่วมกัน

เป้าหมายของเน็ตแอพคือทำให้ทุกองค์กรเข้าใจบทบาทของการจัดเก็บข้อมูลในโลกปัจจุบันซึ่งทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยดาต้า รวมทั้งประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากเทคโนโลยีของเน็ตแอพต่อการเพิ่มขึ้นของข้อมูล Internet of Things และเทรนด์อื่น ๆ

ที่มา: https://www.techtalkthai.com/netapp-internet-of-things/

บริษัท เทเลคอร์ป จำกัด
เลขที่ 216/52 มบ.ซิตี้ลิงค์ ถ.คู่ขนานกาญจนาภิเษก แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10250

Email: trin.bo@telecorp.co.th
Phone: 088-673-9000

จำนวนผู้เข้าชม